เช็คลิสต์ ความร้อนรถยนต์ ระดับไหนปกติ มาดูกัน


หนึ่งปัญหาที่ไม่ควรมองข้ามของผู้ที่ขับขี่รถยนต์คือ อุณหภูมิของรถยนต์ เรียกได้ว่าเป็นต้นเหตุที่จะนำความเสียหายหลายอย่าง หากไม่รักษาระดับอุณหภูมิความร้อนรถยนต์ให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ แล้ว ความร้อนรถยนต์ ระดับไหนปกติ สามารถตรวจเช็คเบื้องต้นได้ด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ดังนี้
 

ความร้อนรถยนต์ ระดับไหนปกติ ?

 

 

อุณหภูมิความร้อนของรถยนต์นั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องหมั่นสังเกตอยู่บ่อย ๆ ในขณะใช้งานรถ เพื่อระวังไม่ให้อุณหภูมิรถร้อนขึ้นสูงผิดปกติ แล้วความร้อนรถยนต์ ระดับไหนปกติ และระดับไหนเป็นอุณหภูมิความร้อนที่ควรต้องระวัง สามารถสังเกตได้ดังต่อไปนี้

  • แบบเข็ม

ชนิดแจ้งเตือนแบบเข็ม ถ้าเข็มชี้อยู่ระหว่างตัวอักษร C (cool) และ ตัว H (hot) และอาจจะมีตัวเลขแจ้งจำนวนอุณหภูมิไว้ในรถยนต์บางรุ่น โดยหากเข็มเบนไปทางตัว H ไม่อยู่ระหว่างกลาง แสดงว่าความร้อนเริ่มผิดปกติ

  • แบบไฟเตือน

การแจ้งเตือนแบบนี้เราสามารถสังเกตได้จากการแจ้งเตือนในรูปแบบสัญญาณไฟ สีเขียวและไฟสีแดง หากแจ้งเตือนด้วยไฟสีแดง แสดงว่าความร้อนเริ่มผิดปกติ

  • แบบไฟดิจิตอล

แบบไฟดิจิตอล จะเป็นอุปกรณ์เสริมที่มีในรถบางคัน มีการใช้งานที่ไม่ซับซ้อนเพียงแค่เสียบปลั๊กเข้ากับตัวรถยนต์ แล้วข้อมูลการวิเคราะห์จะแสดงผลผ่านหน้าจอแอปพลิเคชัน ไม่เพียงแต่วัดค่าความร้อนของรถยนต์เท่านั้น ยังสามารถวัดค่าอื่น ๆ ได้อีกด้วย

 

ความร้อนรถยนต์เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง

 

  • น้ำยาหม้อน้ำเสื่อมสภาพ
  • หม้อน้ำรั่ว
  • หม้อน้ำตัน
  • วาล์วน้ำเสื่อมสภาพ
  • พัดลมไฟฟ้าไม่ทำงาน หรือทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ

 

ความร้อนรถยนต์ขึ้นสูง ต้องทำอย่างไร ?

 

 

1.หยุดจอดรถในที่ปลอดภัย

เมื่อความร้อนขึ้น ควรจอดรถในที่ปลอดภัยและดับเครื่องยนต์ก่อนเป็นลำดับแรก หลังจากนั้นให้ทำการระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ออกมาด้วยการเปิดฝากระโปรงหน้ารถ

 

2.รอจนเครื่องยนต์เย็น ค่อยเปิดฝาหม้อน้ำ

เนื่องจากความร้อนจากห้องเครื่องทำให้ฝาหม้อน้ำร้อนและน้ำในหม้อน้ำมีแรงดันสูง หากเปิดฝาหม้อน้ำทันทีอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่ ควรรอให้เครื่องยนต์เย็นก่อน แล้วจึงค่อยเปิดฝาหม้อน้ำ ในกรณีหม้อน้ำยังไม่หายร้อน ควรใช้ผ้าหนามาช่วยจับฝาหม้อน้ำ แต่ต้องระวังอย่าเอาหน้าเข้าไปใกล้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุอย่างน้ำร้อนกระเด็นใส่

 

3.เติมน้ำอย่างช้าๆ

วิธีเติมน้ำในหม้อน้ำที่ถูกต้องคือ เติมน้ำแบบช้าๆ เว้นช่วงเวลาในการเติม 1 ครั้ง ในกรณีเติมน้ำเท่าไหร่ก็ไม่เต็มหม้อน้ำสักทีอาจมีสาเหตุมากจาหม้อน้ำแตกหรือรั่ว แต่ถ้ามีอาการรั่วเล็กน้อยก็สามารถขับต่อไปได้แต่ให้ขับขี่ด้วยความเร็วน้อยที่สุด และสังเกตสัญญาณเตือนความร้อนอยู่เสมอ ถ้าอุณหภูมิสูงขึ้นให้จอดรถดูอาการอีกครั้ง หลังจากนั้นรอจนกว่าเครื่องยนต์จะเย็นลงแล้ว ขับต่อไปอย่างช้าๆ แต่ควรรีบนำเราเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กทันที

 

วิธีป้องกันเพื่อไม่ให้ รถเกิดความร้อนขึ้น

หมั่นตรวจสอบสภาพรถ

ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบสภาพรถทั้งภายในและภายนอกเป็นประจำ  และหากพบสิ่งผิดปกติควรรีบให้ช่างผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบ

 

ตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำ

การตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำควรทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ในกรณีที่เป็นรถเก่าที่ผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนานควรเช็กให้บ่อยขึ้นและเปลี่ยนถ่ายเทเปลี่ยนเป็นน้ำสะอาดใหม่ทุก 4-6 เดือน เพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ภายในหม้อน้ำสะสมกันจนเกิดการอุดตัน เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ไม่สามารถระบายความร้อนได้ ข้อควรระวัง ไม่ควรเติมน้ำจนเกินขีดที่กำหนด เพราะหม้อน้ำจะขยายตัวมากเกินไปตอนน้ำเดือด ซึ่งเป็นสาเหตุของหม้อน้ำแตกได้

 

สรุปบทความ

 

ตอนนี้เราได้รู้แล้วว่าความร้อนรถยนต์ ระดับไหนปกติ จะช่วยลดความเสียหายของปัญหาเหล่านี้ได้ดีที่สุด ดังนั้นอย่าลืมหมั่นตรวจเช็กสภาพรถยนต์ของคุณในเบื้องต้น และหากมีระบบใดผิดปกติก็ควรจะรีบนำเข้าศูนย์บริการก่อนเดินทางให้เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยและความราบรื่นตลอดการเดินทาง และถ้าหากคุณต้องการใช้บริการเปลี่ยนยางนอกสถานที่ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง หรือล้างแอร์ไม่ถอดตู้ ก็อย่าลืมนึกถึง EZY FIT พิเศษสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการเปลี่ยนยาง รับฟรี บริการตรวจสภาพรถยนต์ 25 รายการ ตรวจให้ถึงที่บ้าน สำหรับผู้ที่สนใจ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการอื่น ๆ สามารถดูบริการต่างๆ ได้ที่นี่