รวม 8 เทคนิคการดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้น


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารถยนต์คือยานพาหนะที่มีส่วนสำคัญต่อชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน ด้วยการใช้งานทุกวันทำให้ผู้ขับขี่ใส่ใจในการดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่รถคนโปรดของคุณจะมีส่วนประกอบต่างๆ ที่เสื่อมสภาพลงตามการใช้งาน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าถ้าหากรถยนต์ถูกละเลยจากการเอาใจใส่ ขับอย่างเดียวไม่เช็กอะไรเลย พฤติกรรมเช่นนี้ เป็นการทำร้ายรถยนต์โดยตรง และมากไปกว่านั้นอาจทำให้อะไหล่บางส่วนเสื่อมสภาพก่อนกำหนดโดยใช่เหตุ ซึ่งในบทความนี้ EZY FIT จะขอแนะนำเทคนิคการดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้นที่ผู้ใช้รถสามารถเช็กเองได้ด้วย 8 เทคนิคดังนี้

 

รวมเทคนิคการดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้นที่คุณก็ทำเองได้

 

1.เช็กระดับของเหลวและน้ำมันเครื่อง

เริ่มต้นการดูแลรักษารถยนต์ด้วยเรื่องของเหลวรถยนต์ ซึ่งในรถยนต์ทุกคันนั้นจะมีของเหลวประกอบการใช้งานอยู่มากมาย เพื่อช่วยให้อะไหล่ส่วนสำคัญต่างๆ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยของเหลวสำคัญจะมีทั้งหมด 6 อย่างดังนี้

  • น้ำมันเครื่อง
  • น้ำมันเบรก
  • น้ำมันเกียร์
  • น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์
  • น้ำยาหล่อเย็น
  • น้ำเช็ดกระจก

 

ซึ่งในถังหรือกระปุกเก็บของเหลวแต่ละอย่างนั้นจะมีขีดวัดระดับ Min และ Max ให้สังเกตที่ระดับของเหลวเหล่านี้ ถ้าอยู่ในระดับกึ่งกลางระหว่าง Min และ Max ถือว่ายังปกติดี แต่ถ้าของเหลวเหล่านี้ขาดหรืออยู่ในระดับที่ต่ำแนะนำให้ปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็กอย่างละเอียดจะดีที่สุด เพราะหากของเหลวเหล่านี้มีปัญหาอาจทำให้การใช้งานรถยนต์ไม่เต็มประสิทธิภาพ ยกเว้นน้ำเช็ดกระจกที่เป็นเพียงแค่น้ำเปล่าไม่มีผลเสียใดๆ

 

2.เช็กลมยางตามคู่มือที่กำหนด

ถัดมาเป็นเรื่องของลมยาง ควรเช็กลมยางอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ โดยทั่วไปถ้าเป็นรถเก๋งคู่มือจะกำหนดอยู่ราวๆ 31-33 หากเติมลมยางไนโตรเจนควรเช็กปีละ 1 ครั้ง นอกจากลมยางแล้วให้สังเกตสภาพยางโดยรวมไม่ว่าจะเป็น เช็กร่องดอกยางต้องลึกไม่ต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร เช็กรอยแตกลายงา รอยเจาะ รอยฉีกขาด และดูรอบๆ ว่ามีอะไรตำอยู่หรือไม่

 

3.เปลี่ยนหัวเทียนทุกๆ 8,000 โลเป็นอย่างต่ำ

หัวเทียนจะเป็นส่วนสำคัญในการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งจะทำให้หัวเทียนสึกกร่อนได้ ดังนั้นเพื่อให้เครื่องยนต์มีความสดใหม่ แนะนำให้เปลี่ยนหัวเทียนตามอายุการใช้งานของแต่ละประเภทดังนี้

  • หัวเทียนนิกเกิล ควรเปลี่ยนทุกๆ 8,000-20,000 กิโลเมตร
  • หัวเทียนอิริเดียม ควรเปลี่ยนทุกๆ 10,000 กิโลเมตร
  • รถยนต์ที่ติดแก๊สแนะนำให้เปลี่ยนทุกๆ 10,000 กิโลเมตร

 

4.เช็กไฟแบตเตอรี่ที่ตาแมวเป็นประจำ

แบตเตอรี่เป็นส่วนที่สำคัญต่อระบบไฟฟ้าในรถยนต์เป็นอย่างมาก ซึ่งแบตเตอรี่รถยนต์โดยทั่วไปไม่ว่าจะแบบเติมน้ำกลั่น แบตเตอรี่แบบแห้ง และกึ่งแห้ง จะมีวิธีเช็กสภาพจากการสังเกตผ่านสีของตาแมวด้านบนของแบตเตอรี่ โดยแต่ละสีจะมีความหมายดังนี้

  • สีฟ้าและเขียว (แล้วแต่แบรนด์) คือไฟเต็มไม่มีปัญหา
  • สีขาว คือ ไฟในแบตเตอรี่อ่อนต้องชาร์จไฟเพิ่ม
  • สีแดง คือ มีความผิดปกติ ถ้าแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่นหมายถึงน้ำกลั่นหมด แต่แบตเตอรี่แห้งจะต้องเปลี่ยนลูกใหม่เท่านั้น

 

5.หมั่นล้างรถสัปดาห์ละครั้ง

การล้างรถบ่อยไม่ได้มีดีแค่เรื่องความสะอาดเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยรักษาสีตัวถังของรถคุณให้ดูใหม่ สีไม่ซีดจาง ซึ่งสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนตัวถังนั้นสารบางตัวอาจมีฤทธิ์กัดกร่อนผิวชั้นนอกของสีไม่ควรปลอดไว้นาน และส่วนของภายในรถยนต์หากมีการเช็ดถูบ่อยๆ จะช่วยลดการหมักหมมของแบคทีเรีย โดยเฉพาะส่วนของพรมปูพื้นควรนำออกมาซักและตากแดดเพื่อสุขลักษณะที่ดี

 

6.จอดรถในที่ร่มเพื่อรักษาสีตัวถัง

รู้หรือไม่ว่าแสงแดดคือมีผลโดยตรงแต่รถยนต์ของคุณหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น สีตัวถังที่ทำให้ซีดจางได้ แผงคอนโซลที่เป็นพลาสติกสามารถเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด และอาจมีผลต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าบางชิ้นที่อยู่บนคอนโซลด้วย ดังนั้นถ้าให้ดีควรหาที่จอดร่มๆ จะดีที่สุด หรือถ้าจำเป็นต้องจอดกลางแดดของแนะนำให้หาม่านหรือแผงกันแดดกางไว้จะช่วยป้องกันความร้อนจากแดดได้ในระดับหนึ่ง

 

7.ขับขี่อย่างนุ่มนวลและระมัดระวัง

การขับขี่ที่นุ่มนวลนั้นมีผลดีต่อรถยนต์หลายส่วนด้วยกัน เช่น 

  • การออกตัวแบบนุ่มนวลไม่กระชากช่วยถนอมชุดเกียร์ได้โดยเฉพาะเกียร์ออโต้ การออกตัวแบบกระชากจากเกียร์ N บ่อยๆ ส่งผลเสียต่อชุดเกียร์โดยตรง 
  • การเว้นระยะเบรกที่เหมาะสมไม่กระชั้นชิด นอกจากทำให้หยุดรถได้อย่างนุ่มนวลแล้วยังเป็นการช่วยถนอมผ้าเบรก
  • ชะลอความเร็วเมื่อเจอหลุมหรือทางขรุขระ ช่วยถนอมโช้คไม่ให้พังเร็วก่อนกำหนด
  • ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิด

 

8.เช็กระยะตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ

สุดท้ายเป็นการดูแลรักษารถยนต์ที่ง่ายที่สุด คือการนำรถยนต์ไปตรวจเช็กระยะตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจเช็กสิ่งผิดปกติต่างอย่างละเอียด ไม่ว่าจะรถใหม่หรือรถเก่าก็จำเป็นต้องได้รับการตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอเพื่อสมรรถนะของรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพ ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย

การดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้นนั้นเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ต้องรู้เอาไว้ เพราะนอกจากจะช่วยถนอมรถยนต์คู่ใจของคุณแล้ว ยังสามารถช่วยให้คุณเข้าใจและแก้ไขปัญหาเฉพาะที่อาจเกิดกับรถยนต์ของคุณได้ทุกเมื่อ หรือถ้าคุณเช็กเองแล้วยังรู้สึกไม่มั่นใจสามารถติดต่อเพื่อปรึกษากับทีมช่างผู้เชี่ยวชาญแบบ Onsite Service ได้กับทาง EZY FIT ที่พร้อมให้การดูแลรักษารถยนต์ของคุณอย่างครบวงจร ทั้ง ยาง, เครื่องยนต์, ระบบแอร์ และช่วงล่าง พร้อมเครื่องมือทันสมัยและครบครันเพื่อคนรักรถอย่างคุณโดยเฉพาะ